สังคหวัตถุธรรม
บรรจงจิตคิดคำทำอักษร ร้อยกรองธรรมสัมมาวราภรณ์ เป็นบทกลอนสอนใจไว้อ่านดู บรรยายเพิ่มเสริมความยึดตามอรรถ แม้นฟังขัดไม่เพราะเสนาะหู โปรดพินิจอรรถความให้งามตรู อดทนสู้อ่านจบอาจพบดี
อริยทรัพย์
สำหรับแบงก์ที่เราจะต้องเตรียม ในการที่จะไปสู่ภพภูมิต่างๆ นั้น ก็ได้แก่ อริยทรัพย์ คือทรัพย์อันประเสริฐ หรือว่า ทรัพย์ของท่านผู้ประเสริฐ เป็นทรัพย์ที่ไกลจากข้าศึก พระราชาหรือโจรจะมายึดมาเอาไปก็ไม่ได้ น้ำก็ไม่ท่วม ไฟก็ไม่ไหม้ เป็นอมตะทรัพย์ คือเป็นทรัพย์ที่ไม่ตาย เป็นทรัพย์ที่ติดตามตัวไปทุกฝีก้าว ฉายาอิว ดุจเงาติดตามตัว เราจากโลกนี้ไปสู่โลกหน้า ก็ยังสามารถติดตามไปในภพที่ตนเกิด
ธรรมสำหรับประดับใจ
ธรรมะที่เอามาแต่งใจ หรือประดับใจให้ใจของเรางามนั้น ได้แก่ สมาธิ คือสมาธินี้เป็นธรรมาภรณ์เครื่องแต่งใจ เมื่อใด ใจของเราเป็นสมาธิ แน่วแน่อยู่ในองค์ธรรมอันเป็นอารมณ์ของสมถะและวิปัสสนาภาวนาแล้ว เมื่อนั้นก็สามารถข่มนิวรณ์ธรรมทั้ง ๕ ประการลงได้
มีธรรมะเป็นอาภรณ์
เราพูดแต่คำสัตย์คำจริงชักนำให้คนทั้งหลายมีความสามัคคี ปรองดอง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน, ไม่พูดส่อเสียดยุยงให้ผู้อื่นทะเลาะ วิวาทบาดหมางกัน แตกร้าวสามัคคีกัน, พูดแต่วาจาที่ไพเราะเสนาะหู ทำให้ผู้ฟังดูดดื่มไว้ในจิตในใจของตน, ไม่พูดคำหยาบ อันเป็นคำที่ฟังแล้วไม่รื่นหู ทำให้ผู้ฟังนั้นเจ็บอกเจ็บใจ, เราพูดแต่วาจาที่ประกอบไปด้วยประโยชน์ ไม่พูดวาจาที่ไร้สาระไร้ประโยชน์
ฝึกไว้ให้ชำนาญ
ถ้าหากว่าเราทำบุญทำกุศลแล้ว ไม่ระลึกไว้ให้ชำนาญ คือไม่ระลึกไว้เลยว่าเราเกิดมานี้ได้ทำบุญทำทาน ไหว้พระ ทำวัตร สวดมนต์ ฟังเทศน์ เจริญสมถภาวนา วิปัสสนาภาวนาได้มากน้อยแค่ไหนเ
ให้เวลาตัวเองบ้าง
ท่านสาธุชนทั้งหลาย วันหนึ่ง ๒๔ ชั่วโมงนี้ เราแบ่งเป็น ๓ ส่วน คือเราใช้เป็นเวลาทำการทำงานเพื่อแสวงหาทรัพย์สมบัติเลี้ยงตัวแ
เมื่อตายไปแล้ว
เมื่อเราตายไปแล้ว บาปบุญยังมีอยู่ ยังจะต้องได้เที่ยวไปในห้วงมหรร
อุปมาของชีวิต
ท่านอุปมาไว้ว่า ชีวิตนี้เหมือนกันกับแสงหิ่งห้อยที่คอยวับๆ แวบๆ ในเวลากลางคืนแล้วก็ดับไป ฉันใด ชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เกิดขึ้นมาแล้วในโลกนี้ ก็พลันแต่จะดับไปเหมือนกัน ฉันนั้น
เตรียมตัวก่อนตาย
เพราะเหตุไรจึงเตรียมตัวก่อนตาย เพราะว่าชีวิตของคนเราไม่ใช่ว่าจะจบลงแค่ตายเท่านั้น ตายแล้ว หากว่ากิเลสตัณหาบาปกรรมยังมีอยู่ ก็ต้องเคลื่อนไปสู่ภพภพใดภพหนึ่ง ตามอำนาจของบาปกรรมและบุญกรรม ดังบทวิเคราะห์ว่า ติภวํ อยตีติ ตาโย ชื่อว่า ตาย เพราะอรรถว่า ย่อมเคลื่อนไปสู่ภพ ๓ ภพใดภพหนึ่ง คือกามภพ รูปภพ อรูปภพ
แต่งกายให้สงบ
การที่จะแต่งกายให้สงบนั้น เราต้องเอาธรรมะมาเป็นเครื่องแต่ง ธรรมะอะไรจะมาเป็นเครื่องแต่งกา
ศีล ๕ คำกลอน
ศีลห้าคือความงามตามบัญญัติ มีวิรัติเจตนานำพาขำ เจตนาเป็นเหตุพิเศษกรรม เป็นหลักนำให้งามด้วยความดี สมาทานวิรัติจัดขนาน สมาทานรับศีลพระชินสีห์ แต่ละข้อพองามตามพิธี เจตน์มุ่งมีวิรัติตัดมลา
ความเพียร
ตราบใดที่ยังไม่ได้บรรลุอริยมรรคอริยผล ย่อมมีกิเลสคือโลภะ โทสะ โมหะ ฝังแน่นอยู่ในสันดานอยู่แล้ว และกิเลสนี่เองคือตัวบาป ดังนั้น การที่จะระวังบาปใหม่ไม่ให้เกิดขึ้นอย่างเดียวเท่านั้นจึงยังไม่พอ ต้องพยายามละบาปเก่าด้วย
๗ สายทางแห่งชีวิต
มีเหตุผลพอที่จะพิสูจน์ได้ว่านรกนั้นต้องเป็นสถานที่ร้อนเพราะเหตุคือโทสะ อันเป็นทางไปก็เป็นของร้อนมากอยู่แล้ว เช่น ในเวลาที่โทสะเกิดขึ้น ก็จะรู้สึกร้อนใจเป็นกำลัง กลุ้มใจไปหมดทุกหนทุกแห่ง เสียใจไปหมดทุกหนทุกแห่ง ริษยาไป หึงหวงไป รำคาญไป แค้นเคืองใจไป ไม่มีที่สิ้นสุด โทสะความโกรธอันใดที่มีมิจฉาทิฏฐิความเห็นผิดเป็นปัจจัย จนเป็นเหตุให้ทำทุจริตมีการฆ่าหรือว่ากล่าวหยาบช้าต่าง ๆ เป็นต้นแล้ว นั่นแหละเป็นหนทางไปสู่นรกโดยแน่นอน